ระบบรับประกันสินค้า Online นั้นสามารถ พัฒนาได้หลากหลายรูปแบบ ตามงบประมาณ และ ความสะดวกสบายในการดูแลระบบ ระบบที่ซับซ้อนไม่ได้เหมาะกับทีมผู้ดูแลทุกคน ระบบที่ง่ายๆบางครั้งเหมาะสมกับการทำงานกว่า ผมสรุปทางเลือกที่ทันสมัยและน่าสนใจ
ระบบรับประกันสินค้าเริ่มต้นจาก
ในการทำระบบมีปัจจัยหลายอย่างทั้งความซับซ้อน, ราคา และ ระบบความปลอดภัยในการทำงานที่จะเลือกระบบได้อย่างเหมาะสม
ตัวเลือกการพัฒนาที่เหมาะสม สามารถแยกตามเทคโนโลยีในปัจจุบันได้เป็น 4 อย่าง โดยอิงกับเทคโนโลยี 3 รูปแบบคือ
ระบบการจัดการข้อมูล อินเตอร์แอคทีพ ของ Google สามารถใช้งานได้ง่าย และปลอดภัย และคุ้นเคย ในราคาค่าโฮสต่ำแบ่งได้เป็น 2 Solution ย่อย
Airtable เป็นระบบ Database Cloud ลูกครึ่งระหว่าง Spreadsheet และ Database ง่ายต่อการใช้งานและมีเทมเพลตให้เลือกใช้มากมาย ดำเนินการมานานกว่า Google Appsheet ดังนั้น การรองรับมาตรฐานต่างๆในการทำงาน และเชื่อมต่อกับ App อื่นๆจะมีมากกว่า
เป็นการพัฒนาระบบแบบดั้งเดิม โดยมีจุดเด่นอยู่ที่
แม้ว่าจะมีทางเลือกการพัฒนาที่หลากหลายรูปแบบ แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงกว่าระบบอื่น พร้อมต้องมีค่า Maintenance ดูแลระบบที่ต้องจ่ายประจำปี เพราะ ทั้งหมดเป็น Assets ของบริษัทเองทางโฮสจะไม่แก้ไขอะไรให้นอกจากให้เช่าพื้นที่ แตกต่างจากระบบ Service Cloud อื่นๆที่ผู้ให้บริการจะดูแล ความปลอดภัยของ โฮสอยู่แล้ว
* Click ที่รูปเพื่อดูภาพที่ใหญ่ขึ้น
บ่อยครั้งที่ผู้ใช้งานข้อมูลมีการใช้ Google Form ในการเก็บข้อมูลเพื่อความสะดวก ประหยัด และ เป็นมาตรฐานในการทำงาน แต่เมื่อถึงเวลาที่จะนำผลของข้อมูลมาใช้นั้น ทำได้จำกัดและ ไม่สามารถใช้ความสามารถ ของ Google Sheet ได้เต็มที่ ซึ่ง ข้อจำกัด ปริมาณ 3-4 แสน เรคคอร์ด ก็เป็นปริมาณที่มากเพียงพอที่จะทำฐานข้อมูลง่ายๆ ไม่ซับซ้อนสำหรับ บริษัท กลาง - เล็ก อย่างสบาย
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่ำ
AppSheet เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยพัฒนา Mobile Application แบบไม่ต้องใช้โค้ด ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องการ Coding หรือแม้แต่บริษัทที่ไม่มีทีมโปรแกรมเมอร์ ก็สามารถสร้าง Mobile Application ที่ใช้งานได้จริงได้ด้วยตัวเอง เพียงเชื่อมต่อข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น Google Sheets, Excel หรือ Cloud SQL นอกจากนี้การที่ AppSheet ถูกเข้าซื้อกิจการโดยบริษัท Google นั้น ยังทำให้ AppSheet สามารถเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ ของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Data Studio, Google Workspace (Google Docs, Sheets, Forms, Drive), และ Google Maps
AppSheet เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยพัฒนากระบวนการทำงานด้วยหลากหลายฟังก์ชันในแอปฯ เดียว ใช้งานง่าย และตอบโจทย์การทำงานหลายรูปแบบ ตัวอย่าง Application ที่สามารถใช้ AppSheet พัฒนาได้ เช่น
ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับปริมาณ user ที่ login est. 7usd/user/month หรือ ระบบที่ไม่ได้ Login
ประมาณ 600 usd ต่อปี
Appsheet เป็นระบบ Software as Service Cloud
เรื่องการดูแล Server จึงง่าย สามารถเชื่อมต่อระบบกับ Google Sheet หรือ ฐานข้อมูลของ Appsheet ได้
เหมาะกับองค์กรณ์ที่ต้องการ การใช้งานแอฟที่หลากหลาย ค่าใช้จ่ายการพัฒนาไม่แพง
ข้อเสีย หน้าตา เน้นไปทางมือถือ
เพิ่มเติม ระบบ Appsheet
Airtable เป็นระบบ ข้อมูลที่ทำงานได้หลากหลาย
เป็นส่วนผสมของ Spread Sheet และ Relational Database มักจะถูกใช้ในการทำ Application ระบบภายในองค์กรที่มีความยืดหยุ่นมากปรับแต่งได้ภายหลัง เพราะราคา ไม่ได้สูงมาก คิดค่าใช้จ่ายตาม User ที่ใช้งาน
Airtable เป็นต้นแบบของ Appsheet ของ Google การดำเนินการของบริษัทจึงยาวนานกว่า มีระบบ Automation และข้อมูลเชื่อมต่อได้มากกว่า เหมาะกับงานที่ ซับซ้อน และยังต้องการ ความยืดหยุ่นในการดำเนินการ
ตัวระบบเป็น รูปแบบ Service Clouds ค่าใช้จ่ายตามปริมาณ ผู้ใช้งานจริง
การทำฐานข้อมูลรูปแบบนี้ เป็นการทำงานแบบเก่าที่ต้องเขียน โค้ด ลงระบบ ฐานข้อมูล มีข้อได้เปรียบเรื่อง ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งระบบ ที่จะต้องแลกมากลับ การต้องมีค่าใช้จ่ายของคนดูแลระบบ ฐานข้อมูล เพิ่มเติม ซึ่งต่างจากระบบอื่นๆข้างต้นที่ ข้อมูลจะถูกดูแลจากผู้ให้บริการ Cloud อยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายจึงสูงกว่าการพัฒนาแบบอื่น
ตัวอย่างระบบเช่น เขียนด้วย Aspx หรือ ฐานข้อมูล MS SQL Server, MySql
เนื้อหา
สรุปลิงค์ตัวอย่างการทำงาน
เมื่อเก็บข้อมูลด้วย Google Forms ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งมาเก็บที่ Google Sheets เราสามารถนำ Google Sheet ไปทำงานต่อได้ตาม รูปภาพอธิบายด้านล่าง
Link ไปยังตัวอย่างการทำงานของระบบรับประกันสินค้าด้วย Google Sheet